2012
DOI: 10.5325/gestaltreview.16.1.0007
|View full text |Cite
|
Sign up to set email alerts
|

A Phenomenologically Based Theory of Personality

Abstract: Evaluation of psychotherapy and its application requires a lucid theoretical base. Part of that base must be a clear and testable theory of personality that fits contemporary scholarly criteria. Such a theory must not only must provide a description of personality function but also allow for discrimination that can be descriptive of “pathology.” This article attempts to provide a foundation for a theory of personality which, with reference to the person, is both phenomenologically and process based. The relati… Show more

Help me understand this report

Search citation statements

Order By: Relevance

Paper Sections

Select...
1
1
1
1

Citation Types

0
4
0
1

Year Published

2014
2014
2023
2023

Publication Types

Select...
5
1

Relationship

0
6

Authors

Journals

citations
Cited by 23 publications
(5 citation statements)
references
References 14 publications
0
4
0
1
Order By: Relevance
“…On the other hand, the conceptual apparatus of cognitive therapy can contribute to being more specific in formulating the cognitive aspects of the gestalt formation process than has traditionally been done in gestalt. As also pointed out by Burley (2004), gestalt formation processes are not just about sensations and experiences but contain meaning ascriptions and interpretations at a fundamental level. In cognitive terminology, such ascriptions and interpretational elements are called thinking, and according to Fodor (1996) it is a mistake to consider them as dichotomous with sensation.…”
Section: Experiential Processes Versus Attributional Processesmentioning
confidence: 90%
See 3 more Smart Citations
“…On the other hand, the conceptual apparatus of cognitive therapy can contribute to being more specific in formulating the cognitive aspects of the gestalt formation process than has traditionally been done in gestalt. As also pointed out by Burley (2004), gestalt formation processes are not just about sensations and experiences but contain meaning ascriptions and interpretations at a fundamental level. In cognitive terminology, such ascriptions and interpretational elements are called thinking, and according to Fodor (1996) it is a mistake to consider them as dichotomous with sensation.…”
Section: Experiential Processes Versus Attributional Processesmentioning
confidence: 90%
“…According to Burley (2004), the central partprocesses in the gestalt formation process are: figure formation, figure sharpening, selfenvironment scan, resolution, assimilation, and the undifferentiated field. These part-processes will usually follow each other in the presented order.…”
Section: Gestalt Formation Process As the Basic Unit Of Analysis In G...mentioning
confidence: 99%
See 2 more Smart Citations
“…การอ่ านเรื ่ องราวจากบุ คลิ กภาพแบบหลากหลาย การเขี ยนเรี ยงความต่ อต้ านเจตคติ ของ กลุ ่ มทดลอง มี ค่ าเฉลี ่ ยคะแนนเจตคติ ระหว่ างกลุ ่ มและความซั บซ้ อนของอั ตลั กษณ์ ทางสั งคม ก่ อนและ หลั งการทดลองแตกต่ างกั น 4. การอ่ านเรื ่ องราวจากบุ คลิ กภาพแบบหลากหลาย การเขี ยนเรี ยงความต่ อต้ านเจตคติ ของ กลุ ่ มทดลองและกลุ ่ มควบคุ ม มี ค่ าเฉลี ่ ยคะแนนเจตคติ ระหว่ างกลุ ่ มและความซั บซ้ อนของอั ตลั กษณ์ ทางสั งคม หลั งการทดลองแตกต่ างกั น ผลการวิ เคราะห์ สมมติ ฐาน สามารถอภิ ปรายผลได้ ดั งนี ้ สะท้ อนบุ คลิ กภาพที ่ เหมาะสมพอดี กั บกลุ ่ มเท่ านั ้ น ขณะที ่ การรั บรู ้ บุ คลิ กภาพคน นอกกลุ ่ ม (outgroup) ของพุ ทธและมุ สลิ มสะท้ อนบุ คลิ กภาพที ่ เหมาะสมพอดี (เหมื อน) และการเป็ น กลุ ่ มย่ อยได้ ด้ วย (แตกต่ าง) 2) ปั จจั ยผู ้ รั บรู ้ ถ้ าผู ้ รั บรู ้ มี โอกาสสั มผั สหรื อมี ปฏิ สั มพั นธ์ กั บบุ คคลนั ้ นในปั จจุ บั น หรื อ บ่ อยครั ้ ง เขาจะเลื อกนำข้ อมู ลนั ้ นมาจั ดกลุ ่ ม ในกรณี ที ่ ผู ้ รั บรู ้ ได้ รั บข้ อมู ลบางอย่ างมาอย่ างยาวนาน ข้ อมู ลนั ้ นจะมี โอกาสถู กนำมาจั ดกลุ ่ มเช่ นกั น (Armor & Taylor, 2003; Kunda & Oleson, 1995) จากกลุ ่ มตั วอย่ างพุ ทธและมุ สลิ ม จึ งรายงานบุ คลิ กภาพที ่ ทั ้ งสองกลุ ่ ม มี การรั บรู ้ ต่ อคนนอกกลุ ่ มตรงกั น มากที ่ สุ ด เช่ น สร้ างสรรค์ ฉลาด มี เป้ าหมาย เก่ ง มี น้ ำใจ ใจดี ข้ อมู ลที ่ สนั บสนุ นผลสมมติ ฐานการศึ กษาที ่ 1 อาจกล่ าวต่ ออี กได้ ว่ า การรั บรู ้ บุ คลิ กภาพที ่ แตกต่ างกั น เป็ นการต่ อยอดทางความคิ ด จากแนวคิ ดของอั ตลั กษณ์ ทางสั งคม (social identity) และ การจั ดกลุ ่ มทางสั งคม (social categorization) พั ฒนาขึ ้ นเป็ นการจั ดกลุ ่ มบุ คลิ กภาพ (personality categorization) เพื ่ อนำไปสู ่ การศึ กษาเกี ่ ยวกั บการจั ดกลุ ่ มบุ คลิ กภาพแบบหลากหลาย (multiple personality categorization) โดยเป็ นการส่ งเสริ มการรั บรู ้ บุ คลิ กภาพ อธิ บายได้ ด้ วยกระบวนการ กลไกทางจิ ตแบบฉายภาพ (mechanism process of projection) ซึ ่ งเป็ นกลไกทางจิ ตของบุ คคล ที ่ มี ต่ อการรั บรู ้ แบบไม่ ยอมรั บบุ คลิ กภาพหรื อนิ สั ยด้ านลบของตนเอง แต่ ไปรั บรู ้ และยอมรั บที ่ บุ คคลอื ่ มตั วเอง กลุ ่ มอื ่ น และมองเห็ นความเหมื อนของบุ คลิ กภาพคนนอกกลุ ่ มได้ ด้ วย ซึ ่ ง ก่ อนหน้ านั ้ นกลุ ่ มตั วอย่ างอาจจะคุ ้ นชิ นกั บการรั บรู ้ ความแตกต่ างของบุ คลิ กภาพมากกว่ าความเหมื อน ลั กษณะข้ อคำถามไม่ ได้ จงใจสร้ างให้ มี การเตรี ยมการรั บรู ้ (priming) แต่ เป็ นเพราะมี จำนวนบุ คลิ กภาพ ถึ ง 172 แบบ ทั ้ งบุ คลิ กภาพบวก ลบ และกลาง อาจทำให้ กลุ ่ มตั วอย่ างถู ก priming โดยไม่ รู ้ ตั ว ผลที ่ เกิ ดขึ ้ นก็ คื อ กลุ ่ มตั วอย่ างมี ข้ อมู ลความคิ ดแบบหลากหลายเกี ่ ยวกั บบุ คลิ กภาพมากยิ ่ งขึ ้ น มากกว่ าเดิ ม ที ่ กลุ ่ มตั วอย่ างอาจนึ กถึ งบุ คลิ กภาพที ่ มี ต่ อคนนอกกลุ ่ มเพี ยงไม่ กี ่ แบบ ซึ ่ งช่ วยเอื ้ อให้ กลุ ่ มพุ ทธและ มุ สลิ ม หั นมามองบุ คลิ กภาพด้ านที ่ ตนไม่ เคยคำนึ งถึ งทั ้ งกั บกลุ ่ มตั วเองและกลุ ่ มอื ่ น สิ ่ งนี ้ มี ประโยชน์ ทางอ้ อมที ่ กระตุ ้ นให้ ตระหนั กถึ งบุ คลิ กภาพด้ านอื ่ นๆ ที ่ แทบจะไม่ ได้ ใช้ หรื อใช้ น้ อยมาก ตามทฤษฏี เกสต์ ตอลบุ คคลควรมี การบู รณาการบุ คลิ กภาพทุ กๆ ส่ วน(Burley, 2012) อนึ ่ งการรั บรู ้ แบบหลากหลายมี ประโยชน์ เพราะเป็ นการแทรกแซงความคิ ดเหมารวม โดยทำ ให้ เกิ ดความไม่ สอดคล้ องทางความคิ ด หรื อเกิ ดความประหลาดใจต่ อข้ อมู ลที ่ ได้ รั บ(Hastie et al, 1990;Kunda et al, 1990) การรั บรู ้ คนอื ่ นแบบหลากหลาย ช่ วยเปลี ่ ยนวิ ธี การคิ ดที ่ มี ต่ อคนนอก กลุ ่ มหรื อกลุ ่ มอื ่ นในมุ มมองใหม่ ๆ (Albarello & Rubini, 2012; Crisp, Hewstone, & Rubin, 2001) การรั บรู ้ บุ คลิ กภาพของกลุ ่ มพุ ทธและมุ สลิ มที ่ มี ต่ อคนนอกกลุ ่ มเหมื อนกั น ได้ แก่ สร้ างสรรค์ ฉลาด มี เป้ าหมาย เก่ ง มี น้ ำใจ ใจดี อยากรู ้ อยากเห็ น เจ้ าความคิ ด เคร่ งขรึ ม ช่ างสงสั ย อ่ อนไหว ชอบโต้ เถี ยง ดื ้ อ และฉลาดแกมโกง โดยกลุ ่ มมุ สลิ มมี ค่ าเฉลี ่ ยของคะแนนการรั บรู ้ บุ คลิ กภาพเกื อบทั ้ งหมดสู งกว่ า กลุ ่ มพุ ทธ อาจเป็ นเพราะมุ สลิ มมี การรั บรู ้ สิ ่ งแวดล้ อม เช่ น วั ฒนธรรม ประเพณี การสื ่ อสาร เพลง ภาพยนตร์ การละเล่ น ภาษา ฯลฯ อยู ่ ภายใต้ บริ บทเรื ่ องราวของกลุ ่ มพุ ทธ และม...…”
unclassified