Economic Well-being and Ageing: The Need for Financial Education for Social Workers

Fenge, Lee‐Ann

doi:10.1080/02615479.2011.579095

Cited by 9 publications

(2 citation statements)

References 34 publications

Supporting

Mentioning

Contrasting

Unclassified

Order By: Relevance

“…The GMM model is used to identify several variables that influence the financial inclusion index in the ASEAN because of a poor understanding of the financial impact on their well-being of social welfare institutions. (Fenge, 2012).…”

Section: Gmm Estimation Resultsmentioning

confidence: 99%

Forecasting Financial Inclusion and Its Impacts on Poverty and Inequality: A Comparative Study in ASEAN

Wahyudi,

Nabella,

Badriyah

et al. 2024

j. ekon. terap.

View full text Add to dashboard Cite

Financial inclusion has played a vital role in eradicating poverty and inequality in some developing countries over the last few decades. In ASEAN, the growth of financial inclusion is so rapid that it reaches every element of society. Therefore, the purpose of this study is to examine forecasts of financial inclusion, poverty, and inequality in ASEAN. In addition, the study also analyzes the correlation between financial inclusion, poverty, and inequality in ASEAN. The study uses the ARIMA and GMM models for the study period from 2000 to 2022. Projections show that most ASEAN countries have experienced an increase in the long-term financial inclusion index, with Thailand leading the ranking, followed by Malaysia. However, the role of financial inclusion in poverty does not seem to be so significant in the short term, most likely due to the still-difficult access for low-income groups.

show abstract

Section: Gmm Estimation Resultsmentioning

confidence: 99%

Forecasting Financial Inclusion and Its Impacts on Poverty and Inequality: A Comparative Study in ASEAN

Wahyudi,

Nabella,

Badriyah

et al. 2024

j. ekon. terap.

View full text Add to dashboard Cite

show abstract

“…วั ยสู งอายุ เป็ นวั ยที ่ มี การเปลี ่ ยนในด้ านต่ างๆ ทั ้ งทางด้ านร่ างกาย จิ ตใจ อารมณ์ และ สั งคม (Wild, Wiles, & Allen, 2013 (Echo, Wilber, & Silverstein, 2010) งานวิ จั ยที ่ ผ่ าน พบว่ า ความเป็ นหม้ ายจะส่ งผลกระทบต่ อความอยู ่ ดี มี สุ ขทางการ เงิ น (financial well-being) โดยเฉพา ะ ในกลุ ่ มผู ้ สู งอายุ (Burkhauser, Butler, & Holden, 1991;Burkhauser & Duncan, 1991;Burkhauser, Holden, & Feaster, 1988;Holden, Burkhauser, & Myers, 1986;McLaughlin & Jensen, 2000) ในส่ วนของคนที ่ แต่ งงานจะมี ความมั ่ งคั ่ งในระดั บ ที ่ สู งกว่ าคนที ่ ไม่ ได้ แต่ งงาน เพราะการแต่ งงานจะเป็ นการกระตุ ้ นให้ ผู ้ ชายท้ างานหนั กขึ ้ น (Gary S Becker, 1981;Gustman & Juster, 1996;Hill, 1979;Korenman & Neumark, 1991;Siegel, 1993;Smith, 1988) (Blinder, Kristol, & Cohen, 1980;Burkhauser, Giles, Lillard, & Schwarze, 2005;Hermalin, 1997;Lewin & Stier, 2003;OECD, 2013;Rudkin, 1993;C. Williams, 2010;Zhang et al, 2011 (Blinder et al, 1980) 3) ความอยู ่ ดี มี สุ ขด้ านทรั พย์ สิ นและเงิ นออม สามารถวั ดได้ จากการที ่ บุ คคล มี ที ่ อยู ่ อาศั ยเป็ นของตนเอง มี เงิ นออมส้ าหรั บการด้ ารงชี วิ ตที ่ เพี ยงพอ และมี ทรั พย์ สิ นอื ่ นๆ เช่ น บั ญชี เงิ นฝาก เงิ นออม หุ ้ น เป็ นต้ น และหากมี หนี ้ สิ น ปริ มาณของหนี ้ สิ นต้ องไม่ เกิ นก้ าลั งของตน (Fenge, 2012;Hermalin, 1997;Mutchler et al, 2014 ;OECD, 2013 (Blinder et al, 1980;Fenge, 2012;Hermalin, 1997;OECD, 2013 (Ofstedal et al, 2004) การตายของคู ่ สมรสในกลุ ่ มผู ้ สู งอายุ ท้ าให้ สู ญเสี ยแหล่ งรายได้ ที ่ จะมา จากคู ่ สมรส (Wang, 2011) อี กทั ้ งการที ่ ผู ้ ...…”

Section: ความแตกต่ างระหว่ างเพศในเรื ่ องการเปลี ่ ยนแปลงในชี วิ ตสม...unclassified

ความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจของผู้สูงอายุไทย

ศรีภักดี

View full text Add to dashboard Cite

การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ความอยู่ดีมีสุขทางเศรษฐกิจ และความเหลื่อมล้ำทางเพศ สถานภาพสมรส และความเป็นปึกแผ่นระหว่างสมาชิกต่างรุ่นในครอบครัวของผู้สูงอายุไทย รวมทั้งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเพศ สถานภาพสมรส และความเป็นปึกแผ่นระหว่างสมาชิกต่างรุ่นในครอบครัวกับความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจของผู้สูงอายุไทย กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ตอบแบบสอบถามด้วยตนเองในโครงการสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2557 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น 26,793 คน โดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติคแบบเรียงลำดับ เพื่อวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านต่างๆ กับความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจของผู้สูงอายุไทย ผลการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุไทยมีความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจอยู่ในระดับปานกลาง แต่หากพิจารณาความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจ 4 มิติ พบว่า ผู้สูงอายุไทยมีความอยู่ดีมีสุขทางเศรษฐกิจด้านการดำรงชีพอยู่ในระดับที่สูงมาก มีความอยู่ดีมีสุขทางเศรษฐกิจด้านการทำงานอยู่ในระดับสูง มีความอยู่ดีมีสุขทางเศรษฐกิจด้านรายได้อยู่ในระดับปานกลาง และมีความอยู่ดีมีสุขทางเศรษฐกิจด้านทรัพย์สินและเงินออมอยู่ในระดับต่ำ โดยเมื่อควบคุมอิทธิพลของตัวแปรอิสระแล้ว ผลการศึกษาได้ข้อค้นพบที่สำคัญ คือ ผู้สูงอายุเพศชายมีความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจสูงกว่าผู้สูงอายุเพศหญิง ผู้สูงอายุที่สมรสมีความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจสูงกว่าผู้สูงอายุที่เป็นโสด ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินจากบุตรตั้งแต่ 30,000 บาทต่อปีขึ้นไป มีความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจสูงกว่าผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับเงินจากบุตร และผู้สูงอายุที่มีการเยี่ยมเยียนและติดต่อกับบุตรมีความอยู่ดีมีสุขทางด้านเศรษฐกิจสูงกว่าผู้สูงอายุที่ไม่เคยเยี่ยมเยียนและติดต่อกับบุตร ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมุ่งเน้นส่งเสริมความเป็นปึกแผ่นของสถาบันครอบครัว เพราะส่วนหนึ่งของการให้การช่วยเหลือเกื้อหนุนซึ่งกันและกันระหว่างผู้สูงอายุกับบุตรมาจากสัมพันธภาพที่ดีและแน่นแฟ้น รวมทั้งส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพในคู่สมรสที่มีความพร้อม เพื่อเป็นหลักประกันในอนาคตให้กับผู้สูงอายุไทยว่าอย่างน้อยเมื่อตกอยู่ในภาวะยากลำบากยังมีครอบครัวเป็นหลักให้พึ่งพา

show abstract