2015
DOI: 10.9730/ojccnh.org/v5n1a8
|View full text |Cite
|
Sign up to set email alerts
|

Improved Health in Ethnically/Culturally Diverse Patients through Enhanced Cultural Competency in Nurse Wellness Outcomes Educators

Help me understand this report

Search citation statements

Order By: Relevance

Paper Sections

Select...
2

Citation Types

0
2
0
2

Year Published

2024
2024
2024
2024

Publication Types

Select...
1
1

Relationship

0
2

Authors

Journals

citations
Cited by 2 publications
(4 citation statements)
references
References 57 publications
0
2
0
2
Order By: Relevance
“…"I believe that if residents are in pain, they will be able to communicate the location and intensity of the pain" (FG1, 34 years, Female). This finding was supported by Raman (2015), who found that culture affects a person's approach to pain management and the amount of pain deemed abnormal. Nurses' understanding of deficits, biases, and attitudes thus influence the assessment and management of the residents' pain (Undari-Schwarts, 2017).…”
Section: Category 22: Cultural Influences On Understanding Residents'...mentioning
confidence: 76%
See 1 more Smart Citation
“…"I believe that if residents are in pain, they will be able to communicate the location and intensity of the pain" (FG1, 34 years, Female). This finding was supported by Raman (2015), who found that culture affects a person's approach to pain management and the amount of pain deemed abnormal. Nurses' understanding of deficits, biases, and attitudes thus influence the assessment and management of the residents' pain (Undari-Schwarts, 2017).…”
Section: Category 22: Cultural Influences On Understanding Residents'...mentioning
confidence: 76%
“…Culture influences pain management interventions in terms of what is regarded as 'normal' and 'abnormal', determining the cause of pain, and influencing the decision-making in determining the best method to be adapted for controlling pain (Reade, 2018). Raman (2015), emphasises the need for nurses to create cultural abilities and culturally appropriate interventions for individuals from culturally varied communities. This process requires nurses to learn how to conduct a comprehensive, culturally sensitive pain assessment to determine the specific needs and appropriate interventions for the people targeted.…”
Section: Category 22: Cultural Influences On Understanding Residents'...mentioning
confidence: 99%
“…Students are conscious and valued culture, gathered cultural data completely, planned congruent care for the patients, and practiced with empathy, honor, and respect. การ (Campinha-Bacote, 1999: 203;Giger et al, 2007;Leininger, 2002: 189;Purnell & Paulanka, 1998;Suh, 2004: 96) เป็ นการปฏิ บั ติ การพยาบาลบนพื ้ นฐานทางวั ฒนธรรมของผู ้ รั บบริ การที ่ แสดงออกถึ งความตระหนั กใน ความส าคั ญของวั ฒนธรรม วิ ถี ชี วิ ต ค่ านิ ยมและพฤติ กรรมของบุ คคลซึ ่ งส่ งผลต่ อสุ ขภาพ ยอมรั บและ เคารพในความแตกต่ างทางวั ฒนธรรม สามารถรวบรวมข้ อมู ลเกี ่ ยวกั บวั ฒนธรรม วิ ถี ชี วิ ต และ พฤติ กรรมที ่ ส่ งผลต่ อสุ ขภาพของผู ้ รั บบริ การได้ อย่ างครอบคลุ ม ระบุ ปั ญหาของผู ้ รั บบริ การ และ สามารถน าข้ อมู ลดั งกล่ าวมาใช้ ในการวางแผนการพยาบาล เพื ่ อดู แลผู ้ รั บบริ การให้ ฟื ้ นหายจากโรค ส่ งเสริ มสุ ขภาพ และป้ องกั นการเกิ ดโรคแทรกซ้ อน หากพยาบาลไม่ มี ความตระหนั กถึ งความส าคั ญของวั ฒนธรรม และความรู ้ เรื ่ องวั ฒนธรรม ย่ อมจะน าไปสู ่ ปั ญหาความไม่ เข้ าใจ หรื อความขั ดแย้ ง ระหว่ างพยาบาลกั บผู ้ รั บบริ การในด้ านความคิ ด ความเชื ่ อ ค่ านิ ยมและการกระท า ทั ้ งพยาบาลและผู ้ รั บบริ การอาจรู ้ สึ กแปลกแยกและไม่ ได้ รั บการ ช่ วยเหลื อ ผู ้ รั บบริ การเข้ าใจผิ ด รู ้ สึ กโกรธ ไม่ ร่ วมมื อในการรั กษา หรื อไม่ ยอมรั บการรั กษา ท าให้ กระบวนการฟื ้ นหายทางด้ านร่ างกายของผู ้ รั บบริ การบกพร่ อง (Giger & Davidhazar, 1995: 20-21) พยาบาลที ่ ขาดความรู ้ เกี ่ ยวกั บความแตกต่ างทางวั ฒนธรรม ไม่ สามารถให้ การพยาบาลแบบองค์ รวม และพั ฒนาความสั มพั นธ์ ทางการรั กษากั บผู ้ ป่ วย ท าให้ พยาบาลเกิ ดความคั บข้ องใจและความเครี ยด (Murphy & Macleod, 1993) นอกจากนี ้ มุ มมองที ่ แตกต่ างกั นของบุ คลากรทางการแพทย์ และ ประชาชน การปฏิ บั ติ การดู แลทางสุ ขภาพที ่ แตกต่ างกั น ท าให้ การติ ดต่ อสื ่ อสารไม่ ดี และผลการรั กษา ไม่ เป็ นที ่ พึ งพอใจ (Boi, 2000: 382-389) ผู ้ ป่ วยไม่ ให้ ความร่ วมมื อในการรั กษา ไม่ รั บประทานยา และ ไม่ เปลี ่ ยนแปลงแบบแผนการด าเนิ นชี วิ ตให้ สอดคล้ องกั บค าแนะน าของแพทย์ (Vermeire et al, 2001: 331- (Dudus, 2012: 317-321;Foronda, 2008: 207-212;Narayan, 2001: 40-48;Suh, 2004: 93-102;Witting, 2004: 54-61) (Suh, 2004: 93-102) จากการศึ กษาแนวคิ ดการเรี ยนการสอนที ่ เน้ นให้ ผู ้ เรี ยนเกิ ดการเรี ยนรู ้ จากการปฏิ บั ติ โดยการ สร้ างประสบการณ์ หรื อการเรี ยนรู ้ ผ่ านประสบการณ์ (Experiential learning) ของ Kolb (1984) ซึ ่ งเสนอว่ าการเรี ยนรู ้ เป็ นกระบวนการต่ อเนื ่ องที ่ เน้ นประสบการณ์ การเรี ยนรู ้ จากการปฏิ บั ติ โดย ความรู ้ สร้ างจากการเปลี ่ ยนผ่ านประสบการณ์ ออกมาเป็ นกรอบแนวคิ ดทางปั ญญา ผู ้ สอนเปิ ดโอกาสให้ ผู ้ เรี ยนเรี ยนรู ้ จากสถานการณ์ จริ ง สร้ างประสบการณ์ การเรี ยนรู ้ ให้ ผู ้ เรี ยนเกิ ดการเรี ยนรู ้ อย่ างมี ความหมาย หรื อจั ดสภาพแวดล้ อมทางการเรี ยนการสอนที ่ ท้ าทายแก่ ผู ้ เรี ยน (Kolb, 1984: 4) โดย จุ ดประสงค์ หลั กของการเรี ยนรู ้ จากประสบการณ์ คื อ การให้ ผู ้ เรี ยนตระหนั กถึ งความส าคั ญของ ประสบการณ์ ซึ ่ งน าไปสู ่ การเรี ยนรู ้ แบบตื ่ นตั ว ประสบการณ์ จะเชื ่ อมโยงความคิ ดและการก...…”
unclassified
“…al.,2002: 92;Giger ed. al., 2007;Purnell & Paulanka, 1998) การ (Campinha-Bacote, 1999: 203;Giger et al, 2007;Leininger, 2002: 189;Purnell & Paulanka, 1998;Suh, 2004: (Leininger, 1991; การ Calvillo et al (2009: 141-142 (Reilly, & Oermann,1999). Kolb (1984: 38), Lewis & Williams (1994: 5), Brookfield (1983:16 (Kolb, 1984: 40-41) ดั งแสดงในรู ปภาพที ่ 7 พื ้ นฐาน (Kolb, 1984:…”
unclassified