“…ฟอสฟอรั สเป็ นสารอาหารหลั กที ่ พื ชต้ องการในปริ มาณมากและมี ความสำคั ญต่ อการเจริ ญ เติ บโตและพั ฒนาของพื ชเช่ นเดี ยวกั บไนโตรเจน โดยฟอสฟอรั สเป็ นองค์ ประกอบสำคั ญของกรด นิ วคลี อิ ก องค์ ประกอบของเยื ่ อหุ ้ มเซลล์ และ ATP จึ งมี บทบาทสำคั ญในการเกิ ดกระบวนการต่ าง ๆ ภายในเซลล์ พื ช (Bielski, 1973;Niklas et al, 2005) (Venkiteshwaran, McNamara and Mayer, 2018) (Furihata, Suzuki and Sakuria, 1992) สำหรั บ pH ของดิ นในป่ าชายเลนนั ้ นมี ค่ าตั ้ งแต่ 4.64 − 8.20 (Vasconcelos et al, 2014;Wakushima, Kuraishi and Sakurai, 1994) ดิ น และความชื ้ นในอากาศ (Kocher, Horna and Leuschner, 2012;Polgar and Primack, 2011;Tardif, Brisson and Bergeron, 2001;Toigo et al, 2021) นอกจากนี ้ ยั งพบว่ าฮอร์ โมนพื ชมี อิ ทธิ พล ต่ อการเติ บโตของลำต้ น เช่ น ออกซิ น (auxin) ซึ ่ งถู กสร้ างจากเนื ้ อเยื ่ อเจริ ญปลายยอดและใบอ่ อน พบว่ าสามารถกระตุ ้ นการสร้ างและการขยายขนาดของเนื ้ อเยื ่ อท่ อลำเลี ยงน้ ำ (xylem) ภายในลำต้ น ของต้ นไม้ ได้ (Sorce et al, 2013) อี กทั ้ งยั งพบว่ าสามารถกระตุ ้ นการสร้ างและการพั ฒนาของเนื ้ อเยื ่ อ ลำเลี ยงอาหาร (phloem) (Fajstavr et al, 2018) (Ghimire et al, 2017;Makino, 2003;Warren, Adams and Chen, 2000) ขณะที ่ ฟอสฟอรั สในใบเป็ นองค์ ประกอบสำคั ญ ของกรดนิ วคลี อิ ก องค์ ประกอบของเยื ่ อหุ ้ มเซลล์ และ ATP จึ งมี บทบาทสำคั ญในการสั งเคราะห์ โปรตี น ภายในเซลล์ (Bielski, 1973;Niklas et al, 2005) จากการศึ กษาใบของแสมขาว (A. alba) ครั ้ งนี ้ พบว่ าปริ มาณไนโตรเจนทั ้ งหมด (TN) ในใบระยะเจริ ญเต็ มที ่ มี ค่ าเท่ ากั บ 2.59 ± 0.19% และไม่ มี ความ แตกต่ างกั นอย่ างมี นั ยสำคั ญทางสถิ ติ ในแต่ ละช่ วงเวลาที ่ เก็ บตั วอย่ าง อย่ างไรก็ ตามพบว่ ามี ค่ าสู งกว่ า ค่ าเฉลี ่ ยของ TN ในใบของพื ชในระบบนิ เวศบกอื ่ น ๆ ที ่ มี ค่ าประมาณ 1.89% (Tian et al, 2018) และ ยั งมี ค่ าสู งกว่ าในใบของต้ นไม้ ป่ าชายเลนหลายชนิ ด ที ่ รายงานค่ าตั ้ งแต่ 0.80 − 2.24% (Almahasheer, Duarte and Irigoien, 2018;Alongi et al, 2002;Boto and Wellington, 1983;Khan, Suwa and Hagihara, 2007;Wang, Xu and Wu, 2020) ขณะที ่ ปริ มาณฟอสฟอรั สทั ้ งหมด (TP) ในใบระยะเจริ ญเต็ มที ่ ในการศึ กษาครั ้ งนี ้ มี ค่ าเท่ ากั บ 0.28 ± 0.03% และไม่ มี ความแตกต่ างกั นอย่ างมี นั ยสำคั ญทางสถิ ติ ในแต่ ละช่ วงเวลาที ่ เก็ บตั วอย่ าง เช่ นเดี ยวกั บ TN ในใบระยะเจริ ญเต็ มที ่ อี กทั ้ งยั งพบว่ ามี ค่ าสู งกว่ า TP ในใบของพื ชในระบบนิ เวศบก อื ่ น ๆ ซึ ่ งมี ค่...…”