2020
DOI: 10.1016/j.dib.2020.106548
|View full text |Cite
|
Sign up to set email alerts
|

Data from a survey of the Philippines’ local governments on their risk management strategies to natural disasters

Abstract: This data is from a survey of Local Government Units Disaster Risk Reduction and Management (DRRM) Office in the Philippines. Conducted in 2016–2017, the survey was intended to assess the disaster risk reduction and mitigation programs and policies employed by the local government on types of disaster due to natural hazards. The survey data covers 47 provinces (including Metro Manila) with 193 municipalities and cities. The sampling design followed a multi-stage probability scheme taking into account the high-… Show more

Help me understand this report

Search citation statements

Order By: Relevance

Paper Sections

Select...
1
1

Citation Types

0
1
0

Year Published

2020
2020
2020
2020

Publication Types

Select...
2
1

Relationship

0
3

Authors

Journals

citations
Cited by 3 publications
(3 citation statements)
references
References 1 publication
0
1
0
Order By: Relevance
“…The facets of knowledge that strengthen both the individual and institution learning was highlighted in the research of (Spiekermann et al, 2019). (Ravago et al 2020) Analyzed the disaster risk reduction and mitigation policies and programs utilized by local governments in the Philippines. Likewise in China, (Liu et al, 2022) investigated disaster resilience in flood prevention and control using index sequence.…”
Section: Disaster Managementmentioning
confidence: 99%
“…The facets of knowledge that strengthen both the individual and institution learning was highlighted in the research of (Spiekermann et al, 2019). (Ravago et al 2020) Analyzed the disaster risk reduction and mitigation policies and programs utilized by local governments in the Philippines. Likewise in China, (Liu et al, 2022) investigated disaster resilience in flood prevention and control using index sequence.…”
Section: Disaster Managementmentioning
confidence: 99%
“…................................................... แผนภาพที ่ 4.8 การเผชิ ญความเสี ่ ยงของครั วเรื อนเกษตรกรที ่ สู ง . ..................................................... อาชี พเกษตรกรเป็ นอาชี พที ่ ต้ องเผชิ ญความเสี ่ ยงและความผั นผวนเป็ นอย่ างมากและยิ ่ ง รุ นแรงมากขึ ้ นจากการสถานการณ์ เปลี ่ ยนแปลงสภาพภู มิ อากาศในปั จจุ บั น (Olesen et al, 2011;Sulewski & Kłoczko-Gajewska, 2014) (Ajibola, 2014;Narayanan & Sahu, 2016; สาธิ ต อดิ ตโต, 2556) ประสบการณ์ ในภาคเกษตร (Ajibola, 2014) เพศ ขนาดของครั วเรื อน การท างานนอกภาคเกษตร (Ajibola, 2014;Narayanan & Sahu, 2016) สถานที ่ ตั ้ งของฟาร์ ม ขนาดของพื ้ นที ่ ท าเกษตรกรรม (สาธิ ต อดิ ตโต, 2556) การพึ ่ งพาตลาด (Rubio & Soloaga, 2004) และการเข้ าร่ วมการส่ งเสริ มการเกษตร (Narayanan & Sahu, 2016) และ 2) ด้ านรู ปแบบเกษตร ได้ แก่ การปลู กพื ชเชิ งเดี ่ ยว (Sulewski & Kłoczko-Gajewska, 2014) การปลู กพื ชและเลี ้ ยงปศุ สั ตว์ (Narayanan & Sahu, 2016และ Ajibola, 2014 3 (Narayanan & Sahu, 2016;Ravago et al, 2015;Ajibola, 2014;Sulewski and Gajewska, 2014 (Nazarifar et al, 2014;Sulewski & Kłoczko-Gajewska, 2014)…”
Section: สารบั ญแผนภาพunclassified
“…นอกจากนี ้ ยั งมี ประสบการณ์ เพื ่ อวางแผนให้ เหมาะสมในการเพาะปลู กตามความ เหมาะสมของแหล่ งทรั พยากรรวมถึ งการบริ หารจั ดการการใช้ ประโยชน์ ที ่ ดิ นให้ ปลู กพื ชที ่ เหมาะสมต่ อ สภาวการณ์(Riwthong et al, 2017(Riwthong et al, และสาธิ ต อดิ ตโต, 2556) ซึ ่ งแตกต่ างจากผลการศึ กษาของRavago et al (2015) ที ่ พบว่ า ในปั จจุ บั นประสบการณ์ ที ่ ผ่ านมาเป็ นประโยชน์ น้ อยลงจากการ เปลี ่ ยนแปลงสภาพภู มิ อากาศเป็ นผลให้ การคาดการณ์ ของเกษตรกรมี ความแม่ นย าลดลง 2) วิ ธี การหรื อรู ปแบบในการปรั บตั ว วิ ธี การหรื อรู ปแบบในการปรั บตั วแตกต่ างกั นออกไปในแต่ ละระดั บและภั ยที ่ เผชิ ญ งานศึ กษา กลุ ่ มหนึ ่ งได้ ศึ กษาถึ งการปรั บตั วจากการเปลี ่ ยนแปลงสภาพภู มิ อากาศในระดั บครั วเรื อน พบว่ า กลยุ ทธ์ หรื อวิ ธี การในการปรั บตั วที ่ ถู กใช้ ในระดั บครั วเรื อน เช่ น การขุ ดบ่ อหรื อสระกั กเก็ บน้ าไว้ ใช้ ใน ฟาร์ ม การซื ้ อเครื ่ องจั กรทดแทนแรงงานคน (สาธิ ต อดิ ตโต, 2556) การท างานเสริ มนอกฟาร์ ม(Sulewski and Kłoczko-Gajewska ,2014) การเข้ าถึ งการบริ การทางการเงิ น(Narayanan & Sahu, 2016) การท าเกษตรกรรมพั นธสั ญญา(Riwthong et al, 2017) การปลู กพื ชมากกว่ า 1 ชนิ ด(Harvey et al, 2014;Riwthong et al, 2017) การแบ่ งเวลาไปท างานนอกภาคเกษตรมากขึ ้ น(Tongruksawattana et al, 2008) นอกจากด้ านการเปลี ่ ยนแปลงสภาพภู มิ อากาศแล้ วยั งมี ด้ าน อื ่ นๆ เช่ น การปรั บตั วของภาคเกษตรจากผลกระทบของข้ อตกลงการค้ าเสรี โดยการปลู กพื ชให้ หลากหลายมากขึ ้ น เข้ าสู ่ ระบบเกษตรพั นธสั ญญา การหาอาชี พเสริ ม การประหยั ดรายจ่ าย การหั นมา ใช้ ปุ ๋ ยอิ นทรี ย์ (นฤมล นิ ราทร และสุ วั จฉรา เปี ่ ยมญาติ , 2553) นอกจากนี ้ มี บางงานศึ กษาที ่ พบว่ า เกษตรกรส่ วนใหญ่ ไม่ มี การปรั บตั ว (Ajibola, 2014) ในระดั บรั ฐบาลการบริ หารจั ดการความเสี ่ ยงจากการด าเนิ นนโยบายของรั ฐบาลในระดั บชาติ (national level) จะไม่ สอดคล้ องกั บความเป็ นจริ งที ่ เกิ ดขึ ้ นในระดั บครั วเรื อน กล่ าวคื อ ไม่ สามารถ แก้ ไขหรื อลดความเสี ่ ยงให้ ตรงจุ ดได้ ดั งนั ้ นการสร้ างกรอบวางแผนการบริ หารจั ดการระดั บครั วเรื อน เพื ่ อใช้ ก าหนดแผนพั ฒนาระดั บชาติ (Bottom-up) จึ งเป็ นสิ ่ งที ่ ส าคั ญ การด าเนิ นนโยบายภาคเกษตร ให้ เหมาะสมในแต่ ละกลุ ่ มตามคุ ณลั กษณะของเกษตรกรเป็ นกลไกส าคั ญในการลดความเสี ่ ยงและความ เปราะบาง เช่ น เกษตรกรในที ่ ราบกั บที ่ ชั น เกษตรกรที ่ ปลู กพื ชไร่ กั บพื ชสวน จะส่ งผลให้ เกษตรกรมี ความสามารถที ่ จะฟื ้ นตั วจากเหตุ การณ์ ต่ างๆ ดี กว่ าการด าเนิ นนโยบายแบบองค์ รวม การปรั บตั วต่ อ สถานการณ์ ต่ างๆ ที ่ เปลี ่ ยนแปลงไปนั ้ นแต่ ละชุ มชน/พื ้ นที ่ อาจมี การด าเนิ นการแตกต่ างกั นไปตามแต่ ละชุ มชน ซึ ่ งขึ ้ นกั บเป้ าหมายและข้ อจ ากั ดต่ างๆ เฉพาะตั ว (Ravago et al, 2015) หน้ าที ่ ในการบู รณาการภาคส่ วนต่ างๆ เป็ นของภาครั ฐ (กรวิ ทย์ ตั นศรี , 2560) ได้ กล่ าวถึ งการ จั ดการแก้ ปั ญหาภาคเกษตรกรรมอย่ างยื นนั ้ น ควรให้ ความส าคั ญกั บการเพิ ่ มประสิ ทธิ ภาพการผลิ ต เพื ่ อลดต้ นทุ นและเพิ ่ มผลตอบแทนจากการผลิ ต โดยภาครั ฐต้ องให้ ความส าคั ญกั บการบริ หารจั ดการ ระบบน้ าเพื ่ อการเกษตรอย่ างเป็ นระบบ ร่ วมมื อกั บภาคเอกชนและสถาบั นการศึ กษาเพื ่ อเพิ ่ ม ประสิ ทธิ ภาพการผลิ ตและสร้ างมู ลค่ าเพิ ่ มในสิ นค้ าเกษตรผ่ านการวิ จั ยและพั ฒนาพั นธุ ์ พื ชและ เทคโนโลยี การเกษตรที ่ เหมาะสมควบคู ่ กั บการก าหนดพื ้ นที ่ ส าหรั บการท าเกษตร (zoning) ส่ งเสริ ม ระบบประกั นภั ยพื ชผลเพื ่ อให้ เกษตรกร สามารถลดความเสี ่ ยงของผลผลิ ตจากภั ยธรรมชาติ ส่ งเสริ ม การเข้ าถึ งแหล่ งทุ น และสนั บสนุ นกลุ ่ มแรงงานรุ ่ นใหม่ ที ่ มี คุ ณภาพให้ เข้ ามาสนใจประกอบอาชี พ การเกษตร เนื ่ องจากเป็ นกลุ ่ มที ่ สามารถเรี ยนรู ้ และปรั บตั วได้ เร็ วกั บเทคโนโลยี สมั ยใหม่ เพื ่ อให้ ภาค เกษตรเป็ นฐานการผลิ ตที ่ มั ่ นคงและเติ บโต...…”
unclassified