Tidy's Physiotherapy 2013
DOI: 10.1016/b978-0-7020-4344-4.00014-6
|View full text |Cite
|
Sign up to set email alerts
|

Muscle imbalance

Help me understand this report

Search citation statements

Order By: Relevance

Paper Sections

Select...

Citation Types

0
0
0
1

Year Published

2024
2024
2024
2024

Publication Types

Select...
1
1

Relationship

0
2

Authors

Journals

citations
Cited by 2 publications
(1 citation statement)
references
References 49 publications
0
0
0
1
Order By: Relevance
“…การเคลื ่ อนไหวที ่ เกิ ดขึ นเป็ นรู ปแบบการเคลื ่ อนไหวซ ้ า ๆ (Repetitive movement) รวมถึ ง เป็ นการเคลื ่ อนไหวที ่ หนั กหน่ วงและรวดเร็ วจึ งส่ งผลให้ เกิ ดการบาดเจ็ บในนั กกี ฬา ซึ ่ งหนึ ่ งในอาการ บาดเจ็ บที ่ พบบ่ อยในนั กกี ฬาเทนนิ สคื อ อาการปวดหลั งส่ วนล่ าง (Low back pain) โดยพบความ เชื ่ อมโยงของแรงปริ มาณมากที ่ เกิ ดขึ นจากการเคลื ่ อนไหวแบบเอี ยงตั วไปด้ านข้ าง (Lateral flexion) ในขณะเสิ ร์ ฟนั นส่ งผลต่ ออาการปวดหลั งส่ วนล่ างของนั กกี ฬา (Campbell et al, 2015) ซึ ่ งจะพบว่ า การบาดเจ็ บที ่ เกิ ดขึ นบริ เวณล้ าตั วนั นมากกว่ า 50% จะเป็ นการบาดเจ็ บที ่ บริ เวณหลั ง (Kibler & Safran, 2005) สาเหตุ ของการบาดเจ็ บที ่ เกิ ดขึ น เกิ ดจากการที ่ กล้ ามเนื อบริ เวณหลั งท้ างานไม่ สมดุ ล (Muscle imbalance) ส่ งผลให้ เกิ ดแรงที ่ กระท้ าต่ อแนวกระดู กสั นหลั งต่ างไปจากปกติ (Renkawitz et al, 2006) (Page et al, 2010) ในภาวะปกติ นั น เมื ่ อมี การเคลื ่ อนไหวเกิ ดขึ นกล้ ามเนื อในแต่ ละกลุ ่ มจะถู กกระตุ ้ นให้ ท้ างาน โดยมี หน้ าที ่ แตกต่ างกั นไปในแต่ ละกลุ ่ ม ดั งนี (Chamberlain et al, 2013) 1. Agonist (Prime movers) (Saeterbakken et al, 2011;Fernandez et al, 2013;Essendrop and Schibye, 2004;Kawabata et al, 2010) ในกลุ…”
unclassified
“…การเคลื ่ อนไหวที ่ เกิ ดขึ นเป็ นรู ปแบบการเคลื ่ อนไหวซ ้ า ๆ (Repetitive movement) รวมถึ ง เป็ นการเคลื ่ อนไหวที ่ หนั กหน่ วงและรวดเร็ วจึ งส่ งผลให้ เกิ ดการบาดเจ็ บในนั กกี ฬา ซึ ่ งหนึ ่ งในอาการ บาดเจ็ บที ่ พบบ่ อยในนั กกี ฬาเทนนิ สคื อ อาการปวดหลั งส่ วนล่ าง (Low back pain) โดยพบความ เชื ่ อมโยงของแรงปริ มาณมากที ่ เกิ ดขึ นจากการเคลื ่ อนไหวแบบเอี ยงตั วไปด้ านข้ าง (Lateral flexion) ในขณะเสิ ร์ ฟนั นส่ งผลต่ ออาการปวดหลั งส่ วนล่ างของนั กกี ฬา (Campbell et al, 2015) ซึ ่ งจะพบว่ า การบาดเจ็ บที ่ เกิ ดขึ นบริ เวณล้ าตั วนั นมากกว่ า 50% จะเป็ นการบาดเจ็ บที ่ บริ เวณหลั ง (Kibler & Safran, 2005) สาเหตุ ของการบาดเจ็ บที ่ เกิ ดขึ น เกิ ดจากการที ่ กล้ ามเนื อบริ เวณหลั งท้ างานไม่ สมดุ ล (Muscle imbalance) ส่ งผลให้ เกิ ดแรงที ่ กระท้ าต่ อแนวกระดู กสั นหลั งต่ างไปจากปกติ (Renkawitz et al, 2006) (Page et al, 2010) ในภาวะปกติ นั น เมื ่ อมี การเคลื ่ อนไหวเกิ ดขึ นกล้ ามเนื อในแต่ ละกลุ ่ มจะถู กกระตุ ้ นให้ ท้ างาน โดยมี หน้ าที ่ แตกต่ างกั นไปในแต่ ละกลุ ่ ม ดั งนี (Chamberlain et al, 2013) 1. Agonist (Prime movers) (Saeterbakken et al, 2011;Fernandez et al, 2013;Essendrop and Schibye, 2004;Kawabata et al, 2010) ในกลุ…”
unclassified