“…, (𝑡 1 , 𝑡 3 ), (𝑡 2 , 𝑡 4 ), (𝑡 3 , 𝑡 5 ), (𝑡 4 , 𝑡 7 ), (𝑡 5 , 𝑡 7 ), (𝑡 6 , 𝑡 8 ), (𝑡 7 , 𝑡 8 )} สามารถสร้ างเมตริ กซ์ การยิ งทรานสิ ชั นจากนิ ยามที ่ 13 ได้ ดั งนี ้ 0 0 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 ] [5,11] จากนั ้ นคำนวณหาโหนดถั ดไปของโหนดการยิ ง 𝑡 2 , 𝑡 3 คื อ -เซตของเพลส 𝑃 = {𝑝 1 , 𝑝 2 , 𝑝 3 , 𝑝 4 , 𝑝 5 , 𝑝 6 , 𝑝 7 , 𝑝 8 , 𝑝 9 , 𝑝 10 , 𝑝 11 } -เซตของทรานสิ ชั น 𝑇 = {𝑡 1 , 𝑡 2 , 𝑡 3 , 𝑡 4 , 𝑡 5 , 𝑡 6 , 𝑡 7 , 𝑡 8 } -ค่ าถ่ วงน้ ำหนั กของเส้ นเชื ่ อมขาเข้ าจากเพลสไปทรานสิ ชั น 𝐵(𝑥) = 1; 𝑥 ∈ {(𝑝 1 , 𝑡 1 ), (𝑝 2 , 𝑡 2 ), (𝑝 3 , 𝑡 3 ), (𝑝 4 , 𝑡 4 ), (𝑝 5 , 𝑡 5 ), (𝑝 6 , 𝑡 6 ), (𝑝 7 , 𝑡 7 ), (𝑝 8 , 𝑡 7 ), (𝑝 9 , 𝑡 8 ), (𝑝 10 , 𝑡 8 )} -ค่ าถ่ วงน้ ำหนั กของเส้ นเชื ่ อมขาออกจากทรานสิ ชั นไปเพลส 𝐹(𝑥) = 1; 𝑥 ∈ {(𝑡 1 , 𝑝 2 ), (𝑡 1 , 𝑝 3 ), (𝑡 2 , 𝑝 4 ), (𝑡 2 , 𝑝 4 ), (𝑡 3 , 𝑝 5 ), (𝑡 4 , 𝑝 7 ), (𝑡 5 , 𝑝 8 ), (𝑡 6 , 𝑝 9 ), (𝑡 7 , 𝑝 10 ), (𝑡 8 , 𝑝 11 )} 𝑔𝑡(𝑡202) = [30,30], 𝑔𝑡(𝑡203) = [30,30], 𝑔𝑡(𝑡204) = [32,34], 𝑔𝑡(𝑡205) = [33,36],…”