The Physiology of Training 2006
DOI: 10.1016/b978-0-443-10117-5.50008-8
|View full text |Cite
|
Sign up to set email alerts
|

The physiology of tapering

Help me understand this report

Search citation statements

Order By: Relevance

Paper Sections

Select...
1
1

Citation Types

0
0
0
1

Year Published

2020
2020
2024
2024

Publication Types

Select...
2
2
1

Relationship

0
5

Authors

Journals

citations
Cited by 5 publications
(4 citation statements)
references
References 23 publications
0
0
0
1
Order By: Relevance
“…The results of this investigation, however, disagree with those of Balan et al (2008) [ 23 ]. Increased muscle endurance did not statistically significantly affect hand grip strength, according to Balan et al According to the research, strength may first improve as a result of neuromuscular adaptation (increased motor activation) [ 24 ], muscle hypertrophy [ 25 ], and probably a change in the kind of muscle fibers [ 26 ].…”
Section: Discussionmentioning
confidence: 99%
“…The results of this investigation, however, disagree with those of Balan et al (2008) [ 23 ]. Increased muscle endurance did not statistically significantly affect hand grip strength, according to Balan et al According to the research, strength may first improve as a result of neuromuscular adaptation (increased motor activation) [ 24 ], muscle hypertrophy [ 25 ], and probably a change in the kind of muscle fibers [ 26 ].…”
Section: Discussionmentioning
confidence: 99%
“…Sistem kerja pada tubuh manusia pada dasarnya berfungsi untuk melakukan aktivitas, baik itu aktivitas gerak, berkerja maupun berolahraga. Khususnya pada aktivitas olahraga, Ergosistema yang paling memegang peranan penting adalah ES-1 dan ES-2, sedangkan untuk ES-3 berperan pada saat setelah olahraga sebagai pemulihan gerak (Whyte, 2006). Namun secara keseluruhan semua ES ini memiliki peranan penting dalam olahraga, karena semuanya merupakan sistem yang terus menerus bekerja untuk kelangsungan hidup manusia.…”
Section: Kesimpulanunclassified
“…โดยการฝึ กเพื ่ อพั ฒนาความคล่ องแคล่ วว่ องไว ความเร็ ว และสมรรถภาพแอนแอโรบิ ก นั ้ น สามารถท าได้ โดยการฝึ กด้ วยความหนั กระดั บสู งสุ ดในระยะเวลา 15-30 วิ นาที ซึ ่ งเป็ นเวลาที ่ ใช้ ระบบพลั งงานจาก เอที พี -ซี พี ร่ วมกั บไกลโคเจนที ่ เก็ บสะสมไว้ ใน กล้ ามเนื ้ อ และวิ ธี ที ่ นิ ยมน ามาฝึ กเพื ่ อพั ฒนาสมรรถภาพความคล่ องแคล่ วว่ องไว ความเร็ ว และ สมรรถภาพแอนแอโรบิ กในนั กกี ฬา ได้ แก่ การฝึ กหนั กสลั บพั ก (Intermittent training)(Whyte, 2006) (Sharkey & Gaskill, 2006) การฝึ กแบบหนั กสลั บเบา คื อรู ปแบบการฝึ กที ่ มี การสลั บกั น ระหว่ างความหนั กและความเบา หรื ออี กความหมายหนึ ่ งอาจจะเรี ยกแบบฝึ กนี ้ ว่ า การฝึ กหนั กสลั บพั ก หรื อการฝึ กแบบกระท าซ้ า ซึ ่ งรู ปแบบการฝึ กดั งกล่ าว มี ส่ วนช่ วยในการช่ วยพั ฒนาความคล่ องแคล่ ว ว่ องไว ความเร็ ว ดั ชนี ความล้ า ก าลั งกล้ ามเนื ้ อ ความทนทาน สมรรถภาพแอนแอโรบิ ก และ สมรรถภาพแอโรบิ ก ให้ มี ประสิ ทธิ ภาพเพิ ่ มขึ ้ น การมี ประสิ ทธิ ภาพมากขึ ้ นหมายถึ งการรั กษา ความสามารถในการท างานของร่ างกายที ่ ระดั บสู งสุ ดให้ ได้ นานกว่ าปกติ จากการศึ กษาที ่ ผ่ านมาแสดง ให้ เห็ นว่ าการฝึ กหนั กสลั บพั ก เป็ นวิ ธี ที ่ มี ประสิ ทธิ ภาพอย่ างมากส าหรั บการน ามาพั ฒนาศั กยภาพ ความเร็ ว ความคล่ องแคล่ วว่ องไว และสมรรถภาพแอนแอโรบิ กในนั กกี ฬา จากการศึ กษาวิ จั ยที ่ ผ่ านมา แสดงให้ เห็ นว่ า การฝึ กหนั กสลั บพั ก ควรมี ช่ วงของการฟื ้ นสภาพร่ างกายด้ วยการหยุ ดพั กแบบสมบู รณ์ ในระยะเวลาสั ้ นๆระหว่ างการฝึ กซ้ อม จะท าการฝึ กซ้ อมมี ประสิ ทธิ ภาพมากกว่ าการหยุ ดพั กที ่ ยาวนาน และนอกจากนี ้ การเปิ ดโอกาสให้ มี การผ่ อนคลายขณะการฝึ กซ้ อมจะผลดี ต่ อการฝึ กซ้ อม เพราะการพั ก อย่ างสมบู รณ์ จะช่ วยให้ นั กกี ฬาสามารถฝึ กซ้ อมด้ วยระดั บความหนั กและปริ มาณที ่ สู ง แล้ วยั งสามารถ รั กษาสมรรถภาพสู งสุ ดในการฝึ กซ้ อมไว้ ได้ ตลอดทุ กเที ่ ยวของการฝึ กซ้ อม (สนธยา ศรี ละมาด, 2560) ในขณะที ่ นั กกี ฬาท าการฝึ กซ้ อมในรู ปแบบต่ าง ๆ ให้ สอดคล้ องกั บลั กษณะการเคลื ่ อนที ่ ในกี ฬาแต่ ละ ประเภท การฝึ กเพื ่ อพั ฒนาทั กษะการเคลื ่ อนที ่ (เจริ ญ กระบวนรั ตน์ , 2538) เป็ นการฝึ กเกี ่ ยวกั บ ความเร็ ว และประสิ ทธิ ภาพการท างานของกล้ ามเนื ้ อ โดยแนวทางการพั ฒนารู ปแบบของทั กษะการ เคลื ่ อนไหวที ่ ดี จ าเป็ นต้ องมี การติ ดตามผลการฝึ กเป็ นช่ วง ๆ และการฝึ กที ่ ดี จะต้ องสามารถสร้ าง ความสั มพั นธ์ ในการประสานงานของกลุ ่ มกล้ ามเนื ้ อต่ าง ๆ ให้ เกิ ดขึ ้ นอย่ างมี ประสิ ทธิ ภาพ ดั งนั ้ น รู ปแบบของกิ จกรรมที ่ ท าการฝึ กเพื ่ อพั ฒนาความคล่ องแคล่ วว่ องไวควรมี รู ปแบบที ่ คล้ ายคลึ งกั บ กิ จกรรมและลั กษณะการเคลื ่ อนที ่ ที ่ ใช้ ในการแข่ งขั นจริ ง ส าหรั บนั กกี ฬาประเภทที มที ่ ต้ องการ ความเร็ วสลั บเป็ นช่ วง ๆ ตลอดการเคลื ่ อนไหวในเกม ยิ ่ งต้ องมี การฝึ กกล้ ามเนื ้ อให้ มี การท างานแบบ หนั กสลั บเบาและความรวดเร็ วในการฝึ กแบบนี ้ เส้ นในกล้ ามเนื ้ อชนิ ดที ่ สามารถท างานได้ อย่ างรวดเร็ ว (Type-II Fast twist fiber) ในช่ วงระยะเวลาสั ้ นๆจะได้ รั บการฝึ กโดยตรง กิ จกรรมที ่ ใช้ ในการฝึ กจึ ง ควรเป็ นการวิ ่ งเร็ วเต็ มที ่ ในช่ วงเวลา 30 วิ นาที สลั บกั บช่ วงเวลาพั ก 2-4 นาที โดยท าการฝึ ก 2-6 เที ่ ยว เป็ นวิ ธี การฝึ กการท างานแบบไม่ ใช้ ออกซิ เจนให้ กล้ ามกล้ ามเนื ้ อที ่ ให้ ผลดี มาก ดั ้ งนั ้ นการฝึ กความ คล่ องแคล่ วว่ องไวในกี ฬาบาสเกตบอลจึ งจ าเป็ นต้ องฝึ กวิ ่ งที ่ มี การเปลี ่ ยนต าแหน่ งของร่ างกายหรื อทิ ศ ทางการเคลื ่ อนที ่ ในระยะสั ้ นๆอย่ างรวดเร็ ว ด้ วยการก้ าวเท้ าให้ เร็ วขึ ้ น การหลอกล่ อคู ่ ต่ อสู ่ การกลั บ ตั วอย่ างคล่ องแคล่ วว่ องไวและมี ประสิ ทธิ ภาพ ซึ ่ งรู ปแบบของกิ จกรรมในการฝึ กควรคล้ ายคลึ งกั บ สถานการณ์ การแข่ งขั นจริ งและท าการฝึ กซ้ า ๆ กั นหลายๆรอบ เพื ่ อให้ ระบบประสาทและระบบ กล้ ามเนื ้ อจดจ าและท างานได้ สั มพั นธ์ กั นดี ยิ ่ งขึ ้ น จนเกิ ดการเรี ยนรู ้ และปฏิ บั ติ ได้ อย่ างอั ตโนมั ติ การฝึ ก ลั กษณะดั งกล่ าวจะช่ วยลดเวลาที ่ ใช้ ในการตั ดสิ นใจในการเคลื ่ อนไหวอย่ างถู กต้ องและมี ประสิ ทธิ ภาพ (Fox & Mathews, 1981) และการฝึ กความคล่ องแคล่ วว่ องไวนั ้ นควรฝึ กในช่ วงหลั งฤดู แข่ งขั นและ ก่ อนฤดู แข่ งขั นจะให้ ผลดี ที ่ สุ ด การฝึ กนั ้ นต้ องปฏิ บั ติ กิ จกรรมที ่ ความหนั กสู งสุ ดและตามด้ วยระยะเวลา ในการฝึ กและ...…”
unclassified